น้ำตาลตกเสี่ยงโคม่า เรื่องสำคัญที่คนเป็นเบาหวานต้องรู้ !!
(เรียบเรียงโดย ญานิศา บุญสากุลธงไชย | ตรวจทานโดย วัชรี ดิษยบุตร BSc.Biochemistry, MSc.Nutrition)
update : 18/06/2021
![น้ำตาลตก-ภัยเงียบเบาหวาน น้ำตาลตก-ภัยเงียบเบาหวาน](https://steadilife.com/wp-content/uploads/2021/06/น้ำตาลตก-ภัยเงียบเบาหวาน1facebook.jpg)
รู้หรือไม่ !? เป็นเบาหวานไม่ใช่แค่ต้องระวังเรื่องน้ำตาลในเลือดสูงอย่างเดียวนะคะ แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปด้วย
คนเป็นเบาหวานส่วนใหญ่มักมีภาวะน้ำตาลตก (Hypoglycemia) ซึ่งก็คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มก./มล. ถ้าระดับน้ำตาลต่ำและไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นปกติได้ทันเวลาจะทำให้เกิดอาการต่างๆที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อาการของแต่ละคนอาจแตกต่างกันและมีหลายระดับ เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นเบาหวานก็ควรสังเกตอาการของตัวเองและบอกให้คนใกล้ชิดได้รับรู้เพื่อคอยเฝ้าระวังภาวะน้ำตาลตก
เมื่อน้ำตาลเริ่มตก
ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติถูกกระตุ้น เราจึงมีอาการ มือสั่น ตัวสั่น กระวนกระวายใจ เหงื่อตก ใจสั่น เหงื่อออกที่มือ-เท้า หงุดหงิด ชาตามปลายมือเท้า ปาก ลิ้น หรือ แก้ม
หากเรายังไม่ได้รับน้ำตาลอีก
ก็จะเริ่มส่งผลต่อสมอง ทำให้เราสับสน มึนหัว วิงเวียน คลื่นไส้ หน้าซีด ตัวซีด ง่วง เปลี้ย อ่อนแรง ตาลาย มองไม่ชัด ปวดหัว ซุ่มซ่าม ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือตัดสินใจได้ ฝันร้าย หรือนอนละเมอ และถ้าขาดน้ำตาลต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดอาการชัก โคม่า และอาจเสียชีวิตได้
![อาการน้ำตาลตก อาการน้ำตาลตก](https://steadilife.com/wp-content/uploads/2021/06/น้ำตาลตก-ภัยเงียบเบาหวาน2.jpg)
- เช็คน้ำตาลในเลือดจากปลายนิ้วว่าน้ำตาลน้อยกว่า 70 มก./มล. หรือสอบถามให้มั่นใจว่าเป็นเบาหวานหรือไม่
- ให้รีบกินคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม หรือ 1 คาร์บ โดยกินอาหารที่ให้น้ำตาลเร็ว เช่น กล้วยสุก ขนมปังขาว อมลูกอม อมน้ำตาล จิบน้ำหวาน น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง (ถ้าหมดสติห้ามให้อาหารและเครื่องดื่มเพราะจะสำลักได้ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที)
- หลังกิน 15 นาที วัดค่าน้ำตาลในเลือดอีกครั้ง หรือสังเกตว่าอาการกลับมาเป็นปกติหรือยัง
- ถ้าค่าน้ำตาลยังไม่ถึง 70 มก./มล.ให้ทำขั้นตอน 2 และ 3 ซ้ำ จนกว่าค่าน้ำตาลจะขึ้น หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น
เมื่ออาการปกติแล้ว ให้กินอาหาร หรือ ของว่างเพิ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าค่าน้ำตาลจะไม่ตกอีก และไม่ควรเป็นอาหารที่ทำให้น้ำตาลสูงเร็วเกินไป
![กฎ15-15 รักษาภาวะน้ำตาลตก กฎ15-15 รักษาภาวะน้ำตาลตก](https://steadilife.com/wp-content/uploads/2021/06/น้ำตาลตก-ภัยเงียบเบาหวาน3.jpg)
ภาวะน้ำตาลตกเป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะหากเป็นโดยไม่รู้ตัว ขณะกำลังขับรถ ทำงานที่มีความเสี่ยง หรือ นอนหลับอยู่ อาจนำไปสู่การเสียชีวิต กันไว้จึงดีกว่าแก้
ผู้เป็นเบาหวาน หรือ เคยเกิดภาวะน้ำตาลตก ควรพกของว่างติดตัวไว้ เผื่อฉุกเฉิน เช่น ติดประชุม ติดงาน กินอาหารไม่ตรงเวลา หรือกินยาไม่ตรงกับมื้ออาหาร โดยของว่างนั้นอาจเป็นผลไม้ ถั่ว นม ขนมหรืออาหาร แต่ที่สำคัญควรมีโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ
- มีน้ำตาลบ้างแต่ไม่สูงเกินไป
- มีโปรตีนและไขมันชนิดที่ดีด้วย ไม่ได้มีแต่จำพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรต
- อาจมีใยอาหาร รวมถึงสารอาหารอื่นๆที่ดีต่อร่างกาย
อาหารว่างที่พอเหมาะในการคุมน้ำตาล คือ ปริมาณอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตประมาณ 1-2 คาร์บ (หรือ เท่ากับ 15-30 กรัม) ซึ่งจะช่วยประคองระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ให้ต่ำจนเป็นอันตราย ในขณะเดียวกันก็ไม่ส่งผลให้น้ำตาลสูงมากเกิน